นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วยแนวโน้มกำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดหุ้นไทย หลังจากผ่านมา 2 เดือนของปี 67 EPS ติดลบประมาณ 3% ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) มีโอกาสปรับคาดการณ์ลง ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังขาด Momentum ในเชิงบวก
SET Index มีโอกาสลุ้นรีบาวด์ หลังตัวเลข PCE ออกมาตามคาด
เปิด 3 ธีมหุ้นน่าสะสม หลังกนง.คงดอกเบี้ยที่ 2.50% ต่อปี
“สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือการประชุมใหญ่ของทีมเศรษฐกิจจีนจะมีนโยบายการการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากน้อยแค่ไหน ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อ Fund Flow ของต่างชาติ”นายสรพล กล่าว
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนมีนาคม 2567 ว่า สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ได้ โดยมีปัจจัยหนุนอยู่หลายปัจจัยดังนี้ 1.การเริ่มต้นบังคับใช้มาตรการฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีน ซึ่งน่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย
2.ความคาดหวังต่อการใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการลงทุน หลัง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับใหม่มีโอกาสถูกประกาศใช้เร็วขึ้น โดยทั้งเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกจากสภาล่างและสภาสูงอย่างต่อเนื่อง
3.ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนทั่วไปในประเทศ หลัง ตลท. เริ่มมีการปรับตัวที่ Active มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการจำกัดธุรกรรม Short selling หรือ Program trading รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ
4.Fund flow ที่น่าจะเริ่มกลับเข้ามาเป็นบวกมากขึ้น หลังผ่านพ้นการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI ในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งในรอบนี้ตลาดหุ้นไทยถูกลดน้ำหนักลงเล็กน้อยในตะกร้า MSCI EM 5.Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ลงมาอยู่ในโซนที่น่าสนใจแล้ว สะท้อนผ่าน Earning yield gap ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง และ Relative PE ระหว่างหุ้นไทยกับหุ้น ASEAN ที่ลงมาอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และ 6.การปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของไทยที่น่าจะสิ้นสุดลงชั่วคราว หลังผ่านพ้นเทศกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 ไปเป็นที่เรียบร้อย
ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET ในเดือนนี้จะมีแนวรับแรกอยู่ที่ 1,370 จุด และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,340 จุด ในทางกลับกัน ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,410 จุด และแนวต้านสำคัญ 1,440 จุด ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนหาจังหวะเข้าสะสมหุ้นไทยที่บริเวณดัชนี 1,370 จุดหรือต่ำกว่า
สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มที่เห็นโมเมนตัมของการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ และ Mobility ของผู้คนที่สูงขึ้น ได้แก่ 1.กลุ่มโรงแรม ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW 2.กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CPAXT, BJC 3.กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, BCH, PR9 และ 4.กลุ่มสื่อสาร ADVANC, TRUE
ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรไปตามปัจจัยแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (ตามความคาดหวังการเบิกจ่ายภาครัฐ) และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ (ตามวอลุ่มการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่สูงขึ้น)คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนซิตี้ แซงชนะ แมนยู 3-1 โฟเด้น เบิ้ล
“โยเกิร์ต” มูฟออน! ลบเกลี้ยงทุกอย่างเกี่ยว “พีเค” ด้านนางแบบเวียดนามเคลื่อนไหว หลังถูกเอี่ยวดราม่า
กยศ.คืนเงินลูกหนี้ 3,494 ราย 97 ล้านบาท หลังใช้เกณฑ์คำนวณหนี้ใหม่